Sea and Beach Photos in Thailand 180º : Part II – ทะเลและชายหาด : ตอนที่ ๒

(Continued from Part I : https://www.giunca.com/EdWorld/2012/06/27/a-behind-the-scenes-look-at-the-sea-and-beach-photos-in-thailand-180%C2%BA-part-1/)

The sea and beach photos were the most expensive part of the book to produce.  For the most part, we hired private boats so we could travel when and where we wanted, and without the crowds.  Looking back now, it was all well worth it!  One interesting note is that the Kingdom is very narrow as you head to the south, with the Gulf of Thailand on the east, and the Andaman Sea on the west.  During the wet season, the Gulf area of the south is relatively dry, but the Andaman coast gets plenty of rain.  In the cool season, it’s the opposite.  Here’s a map courtesy of Wiki, to help you get your bearings:

การถ่ายภาพทะเลและ ชายหาดของเรากว่าจะได้มาแต่ละภาพมันช่างแพงเหลือเกิน  เนื่องจากเราไม่ได้ซื้อทัวร์แบบแชร์กรุ๊ปเพราะเขาจะเริ่มออกเดินทางกันตอน สายและไปแวะจุดดำน้ำต่างๆ  ซึ่งเสียเวลาและพอสายเกินไปแสงก็ไม่สวย  อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวเยอะแยะเข้ามาอยู่ในภาพถ่ายของเรา  เราจึงเช่าเหมาเรือส่วนตัวซึ่งเราสามารถกำหนดเวลาและสถานที่ที่เราจะไป ถ่ายภาพได้ (ราคาสูงลิ่ว-ก็ยอม)  เมื่อดูจากรูปแผนที่ประเทศไทยนั้น ทางภาคใต้จะเป็นส่วนแคบๆ เป็นแนวยาวลงมา มีอ่าวไทยทางทิศตะวันออกและทะเลอันดามันทางทิศตะวันตก

The Kingdom of Thailand

The Kingdom of Thailand

In Part I, we blogged about the west coast, so in this second part we’ll talk about the east coast.  We started from Chumphon with a nice & quiet beach named Thung Wua Laen, or roughly translated, “Where the bull ran”.  What!?  There are bulls on the beach?…  No, not today, but many centuries ago folklore talked about this area  being a dense jungle near the beach filled with rare animals.  Many skilled hunters who had amulets (lucky charms) and powerful guns never returned from the area with their trophy kills. It was rumored that if you shot a wild boar it still could run away; if you shot a bird, the bird could still fly and hide in this jungle.  One day a group of hunters teamed up to disprove this legend.  They were sure they had killed a bull, but they too were in for a surprise!  While the bull was being skinned, it ran “across the field”, and that’s how the beach got its name.

ในบล็อกแรกเราเล่าถึงแนวชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันไปแล้ว  และบล็อกนี้จะพาชมทะเลภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย  เริ่มจากประตูสู่ภาคใต้ที่จังหวัดชุมพร เรารีบแล่นไปหาวัวที่อำเภอปะทิวกันเลย  มีวัวมาเดินเล่นบนชายหาดด้วยเหรอ?.. ไม่มี! แต่ร้อยปีก่อน อาจจะมีก็ได้นะ เพราะ “…ทุ่งวัวแล่นที่เคยเป็นท้องทุ่งริมทะเลที่ด้านหนึ่งติดเชิงเขาและชายป่าทึบรกชัฏ …พรานคนใดแกร่งกล้าอาคมฉมัง บุกมาล่าสัตว์ที่นี่ ถึงแม้ยิงโดนตัวสัตว์ แต่ไม่เคยได้ตัว ยิงหมู-หมูวิ่งเข้าป่า ยิงอีกา-อีกาบินหนี  เหล่าพรานจึงรวมตัวบุกเข้ามาล่าสัตว์.. จนวัวตัวหนึ่งวิ่งผ่านมา พรานช่วยกันกระหน่ำยิงจนล้มลง เหล่าพรานช่วยกันถลกหนังได้ครึ่งตัว  วัวกลับลุกขึ้นแล้ววิ่งแล่นหายไปในป่า จึงเป็นที่เรียกขานกันต่อมาถึงชื่อ “อ่าวทุ่งวัวแล่น”   ปัจจุบันหาดทุ่งวัวแล่นมีรูปปั้นวัวในท่าทางกำลังออกวิ่งตั้งอยู่บริเวณหาด

Bull Statue on Thung Wua Laen Beach, Chumphon, Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Bull Statue on Thung Wua Laen Beach, Chumphon, Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Thung Wua Laen Beach

The fine sand covered Thung Wua Laen beach is about 3 kilometers long, and covered with morning glory vines and gently bending palm trees. It is one of the most popular beaches in Chumphon.  Also, it’s a good place to see the sunrise and/or snorkeling.  We stayed in a small hotel that was in walking distance to the scenic area in the photo below.  The sun played hide and seek all day and didn’t break through the clouds fully until the end of the day.  I guess we walked back and forth about ten times that day before getting our shots.

หาดทุ่งวัวแล่น  เป็นหาดลักษณะโค้งและกว้าง ทรายเนียนละเอียด ค่อยๆ ลาดลงไปในทะเล  มีต้นมะพร้าวและผักบุ้งทะเลปกคลุมอยู่ตลอดแนว สงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนนอนทอดกายชายทะเลจริงๆ   นอกจากนี้ยังมีจุดดำน้ำตื้น เล่นกีฬาชายหาด และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า

Thung Wua Laen Beach, Chumphon, Thailand (George Edward Giunca for 180books.org)

Thung Wua Laen Beach, Chumphon, Thailand (George Edward Giunca for 180books.org)

Morning Glory Vines on Thung Wua Laen Beach, Chumphon, Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Morning Glory Vines on Thung Wua Laen Beach, Chumphon, Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

A Sea Ogress Named Phii Seua Samut

Heading southward, we came across this statue of the sea ogress named Phii Seua Samut.  Here she towers over the landscape, professing her love for Prince Aphai, recreating the scene from “Phra Aphai Mani”; a 30,000-line epic, written by Thailand’s best-known poet, Sunthorn Phu.  This Phii Seua Samut statue sits beside Wat Phra Yai on Samui Island in Surat Thani.  We just happened to stop by as the monks were leaving for their morning alms rounds, which added color and scale to the photo.

ใต้ลงมาจากชุมพร เราข้ามไป “เกาะสมุย” จ.สุราษฎร์ธานี  ตามหานางผีเสื้อสมุทร  นางในนิทานคำกลอนของสุนทรภู่ ผู้เป็นกวิเอกของไทย  “นางผีเสื้อสมุทร”  เป็นยักษ์ อาศัยอยู่ในถ้ำกลางทะเล  วันหนึ่งนางเห็นพระอภัยมณีก็เกิดหลงรักจึงแอบลักพาไปและร่ายมนต์สะกดให้อยู่กับนางในถ้ำ  จนมีบุตรชายด้วยกันชื่อสินสมุทร   ต่อมาพระอภัยมณีกับสินสมุทรได้พากันหนีไป  นางผีเสื้อสมุทรจึงออกติดตามหาอาลัยด้วยความรัก  แต่แล้วนางก็ต้องจบชีวิตลงด้วยเสียงปี่ของพระอภัยมณี  รูปปั้นนางผีเสื้อสมุทรนี้อยู่บริเวณวัดพระใหญ่  เธอยืนรำพันอยู่ในทะเล (แต่ตอนถ่ายภาพนี้เป็นเวลาน้ำลง)  สังเกตได้ว่ารูปปั้นมีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับพระสองรูปที่กำลังเดินผ่าน

Statue of the Sea Ogress named Phii Seua Samut (George Edward Giunca for 180books.org)

Statue of the Sea Ogress named Phii Seua Samut (George Edward Giunca for 180books.org)

Talay Noi Wetlands Preserve

The Talay Noi Wetlands Preserve, in Phattalung, at 450 square kilometers, is the largest waterfowl reserve in the Kingdom, and home to 187 species of birds.  We decided to book a boat ride at sunrise to explore this vast area.  I had envisioned the ball of the sun just breaking over the horizon, backlighting lotus flowers, but the park didn’t open until 6:30 am.  Once we were seated in the boat, our guide busied himself rearranging his gear in the boat, as the first morning light broke the sky.  “COME ON”, I shouted in my politest voice, causing a nearby flock of birds to take to the sky.  But no, we had to wait for a man to come photograph us and copy our IDs.  Twenty minutes later we were finally on our way, and the sun was “Too high”.

So we headed back.  Once on shore I started making arrangements for an evening sunset tour, when my wife grabbed my arm and said, “Look at that!”  I looked behind me and saw the scene I captured in the bottom photograph.  We canceled our evening boat tour; I knew it could get any better than this!

มุ่งหน้าสู่เมืองลุง นั่งรถกินลมชมควายน้ำและดูนกที่ “ทะเลน้อย”  เนื้อที่กว่า ๒ แสนไร่ของพื้นที่ชุ่มน้ำพรุควนขี้เสียน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เป็นพื้นที่ชุมน้ำโลกแห่งแรกของไทย
เราตื่นแต่ตี ๕ เดินออกจากที่พักมาด้วยความหวังว่าจะได้ออกเรือไปเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นริมขอบฟ้า สาดทอแสงมายังดอกบัวล้านดอก นกเป็นล้านตัว  — !!แต่…กว่าจะออกเรือได้ก็ตอนหกโมงห้าสิบนะคะ เพราะอุทยานฯ เปิด ๖.๓๐ น.และต้องรอเจ้าหน้าที่มาลงบันทึกข้อมูล, แสดงบัตรประชาชน, ถ่ายภาพคนขับเรือและผู้โดยสาร, …บลาๆๆ   ณ เพลานั้น พระอาทิตย์ก็ขึ้นสาดแสงแรงกล้าจ้าจัดมาก ไม่ได้ภาพถูกใจซักภาพเลย  ใครคิดจะออกเรือไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นแบบเราก็รับประทานแห้วเป็นอาหารเช้าไปนะคะ!!
ออกเรือไปได้ชั่วโมงครึ่งจึงกลับฝั่ง และนัดแนะกับคนเรือว่าวันนี้จะออกเรือไปอีกครั้งตอนตะวันกำลังลับขอบฟ้า  ขณะนั้นคือเซ็งมาก  เดินออกไปมองทะเลน้อยแล้วก็รีบกลับไปคว้าแขวนคุณเอ็ด  บอกเขาว่า “ไปดูนี่สิ”!   ณ จุดนั้น คุณเอ็ดกดชัตเตอร์รัวๆ พร้อมกับภาพที่สวยงามเกินบรรยาย   และเราก็ขอยกเลิกการล่องเรือตอนเย็นเพราะรูปนี้  สวยจนอุทานในใจว่า “นี่เมืองไทยจริง ๆ เหรอเนี่ย?”

Talay Noi Wetlands (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Talay Noi Wetlands (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

The Golden Mermaid on Laem Samila

Since its creation in 1966, by Jitr Buabus, the mermaid sculpture has become the symbol of Laem Samila beach in Songkhla.  Local legend has it that one night a mermaid came to this beautiful beach.  A young fisherman saw the mermaid combing her long hair and frightened her.  She swam away leaving the comb behind.  The fisherman kept the comb and is still waiting for her to return.

In the distance, you can see the Cat and Mouse Islands, that according to another local legend, were formed when a cat and a dog and a mouse tried to steal a crystal ball from a merchant at sea, who drowned while trying to escape.  Although the dog had successfully reached the shore, he died from exhaustion and transformed into a mountain.  The crystal formed the white sand on the beach and the cat and mouse became islands in the sea.

ปิดท้ายกันที่สงขลา ใครไม่มาชม “นางเงือกทอง” ของสมิหลาถือว่ามาไม่ถึงสงขลานะคะ  ในนิยายปรัมปรากล่าวถึงนางเงือกงามนั่งหวีผม ณ ริมหาดสวยแห่งหนึ่งยามค่ำคืน  คืนหนึ่งเมื่อชาวประมงเดินมาพบ นางเงือกตกใจหนีลงน้ำทะเลไปโดยลืมหวีทองคำทิ้งไว้  ชาวประมงผู้นั้นได้แต่เฝ้ารอคอยแต่นางเงือกก็ไม่มาปรากฏกายอีกเลย   ประติมากรรมนางเงือกทองนี้หล่อขึ้นด้วยบรอนซ์รมดำ โดยฝีมือการออกแบบ ปั้น และหล่อ โดยอาจารย์จิตร บัวบุศย์ ในปีพ.ศ. ๒๕๐๙   จนกลายเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมสมิหลา

ไกลออกไปในทะเลด้านหลังนางเงือกทองจะเห็นเกาะหนูและเกาะแมว อันมีนิทานพื้นบ้านสอนลูกหลานถึงเรื่องความสามัคคี ว่ามีพ่อค้าชาวจีนคนหนึ่งคุมเรือสำเภาจากเมืองจีนมาค้าขายที่เมืองสงขลา  จึงพาหมากับแมวลงเรือจากสงขลากลับไปด้วย  แต่เมื่ออยู่ในเรือนานๆ หมาและแมวก็เกิดความเบื่อหน่าย อยากกลับบ้าน   จึงให้หนูไปขโมยลูกแก้ววิเศษที่ทำให้ไม่จมน้ำมา  และทั้งสามก็แอบหนีลงจากเรือว่ายน้ำทะเล จนกระทั่งหนูและแมวที่มีความระแวงซึ่งกันและกัน จึงเกิดแย่งชิงลูกแก้ว จนลูกแก้วจมหายไปในทะเลและแตกสลายเป็น “หาดทรายแก้ว”    ทั้งหนูและแมวต่างหมดแรงจึงจมน้ำตายกลายเป็น “เกาะหนูเกาะแมว”  ส่วนเจ้าหมาตะเกียกตะกายว่ายน้ำไปจนถึงฝั่ง แต่เหนื่อยจนสิ้นใจตายกลายเป็นหินบริเวณ “เขาตังกวน”

อยากจะล่องท่องเที่ยวไปให้สุดชายแดนใต้ แต่ต้องหยุดไว้ที่สงขลา … ไม่เป็นไรค่ะ  เมื่อโอกาสมา เวลาเหมาะ เราจะไป!! — เที่ยวเมืองไทย ยิ้มสุขใจ ค้นหาสิ่งแปลกใหม่ ชื่นชมความสวยงาม เปิดใจและโลกทัศน์ให้กว้าง… พบกันใหม่บล็อกหน้าค่ะ

Golden Mermaid on Laem Samila, Songkhla with Cat and Mouse Islands in the Background (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Golden Mermaid on Laem Samila, Songkhla with Cat and Mouse Islands in the Background (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

We had to eliminate the ability to comment from this wordpress site due to excessive spam. If you enjoyed this story, subscribe using the “Subscribe” button below, or visit our facebook fan page to comment Here

We’d LOVE to hear from you!

ผู้ติดตามอ่านบล็อก สามารถติดตามอัพเดทโพสต์บล็อกได้โดยสมัครสมาชิกที่บล็อกนี้ หรือ กดไลค์เฟสบุ๊คเพจของเราที่นี่ Here

Blog : Thai by Apisatha Giunca
Blog : English by George Edward Giunca

Save

About the Authors

Photographer George Edward Giunca, and his Thai wife, Apisatha, have traveled around Thailand armed with a circular fisheye lens to create a photo essay on the rich cultural diversity, and abundant natural beauty of the Kingdom of Thailand. Fleeing from angry water buffaloes, slapping huge mosquitoes, watching exotic festivals and religious rituals, gorging on delicious spicy food, applying aloe vera cream to sunburned skin, wading through rice paddies, getting drenched to the bone by heavy monsoon rains, and gawking at breath-taking scenery; made it a journey of epic proportions! The result is the book, THAILAND 180º. Later, they traveled extensively through Myanmar, Malaysia, and India, gathering a massive collections of 180º photos. They currently live in Chiang Mai where they continue to blog and are now working on a CHIANG MAI 180º book.
Save

Here’s How to Order Your Copy of THAILAND 180º Collectors EditionToday!

In Thailand —>>>http://www.thailand180.com/thaiorder.html

The Rest of the world: We are offering our book on Amazon.com, below list price and I’ll pay for the shipping within the United States! http://amzn.to/1knDPRR

Not Familiar with Our Book???

This show details the origin of 180 Books, a series of art/travel books illustrated with a circular fisheye lens. By using infographics, pictures from our THAILAND 180º book, and never seen before images from our vault, we’ll demonstrate this unique lens and present our unique books.

Also, because there’s nothing to watch on TV, here’s a trailer about our book, “THAILAND 180”

Above is an interactive map of Thailand. If you click on a marker it reveals a photo from our THAILAND 180º book and a link to our blog article about the photo. Go Ahead~ Start Exploring ~Have Some Fun!


 

You may also like...