Raksha Bandhan ~ Ties That Bind ~~~ रक्षाबंधन / राखी ~~~ เทศกาล “รักชา บันดฮัน” หรือ “รักคี”
Raksha Bandhan also called Rakhi, is a Hindu festival that is celebrated on the full moon day of Shravana on the Hindu Lunar/Solar calendar, which is in August on our western Gregorian calendar. Raksha Bandhan means “Bond of Protection” and celebrates the love/duty relationship of a brother and sister or even a brother-sister like relationship between a man and woman even if they aren’t related. Rakhi is a simple festival that transcends religion, race, and ethnicity and focuses on a bond of love and harmony.
เทศกาล “รักชา บันดฮัน” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “รักคี” จัดขึ้นในวันเพ็ญ เดือนศรวณะ ตามปฏิทินฮินดู ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม เป็นเทศกาลของพี่น้องชายหญิงเฉลิมฉลองแสดงออกถึงความรัก ความผูกพัน และความเคารพต่อกัน โดยดั้งเดิมแล้วประเพณีนี้ปฏิบัติในครอบครัวเท่านั้น แต่ท่าน “รพินทรนาถ ฐากูร” ได้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของความรักความสามัคคีที่ไร้ขอบเขต ทุกคนในสังคมมีความรับผิดชอบร่วมปกป้องซึ่งกันและกัน โดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ เชื้อชาติ ศาสนาใดๆ ทั้งสิ้น
Preparation for the Ceremony
Excitement and anticipation build up in the days leading to the celebration day. Sisters shop for a Raksha Bandhan or make their own. The band can be as simple as a piece of thread or as elaborate as a work of art that consists of amulets, charms,(link to amulets blog) beads, or even a watch or bracelet. The brother will shop for a gift which can range from an inexpensive token of love to a gift that will wow.
ช่วงเทศกาลนี้จะเห็นสาวๆ ต่างพากันช้อปปิ้งเลือกซื้อสายข้อมือสวยๆ หรือบางคนก็ทำเอง มีทั้งแบบที่มีลูกปัด, หินสี, มุก, เครื่องราง, เทพฮินดู หรือบางคนก็เลือกซื้อนาฬิกาให้แทน ส่วนหนุ่มๆ เขาก็จะไปหาซื้อของขวัญเตรียมไว้ให้พี่สาวน้องสาวเช่นกัน
How is Rakhi Celebrated?
Like most Hindu festivals, the day begins early with a shower to clean the body and a prayer to cleanse the soul. The mothers and sister help each other prepare food, sweets, and puja tray. The puja tray is likely to have a Rakhi band, tilak ( a red powder), turmeric, desserts, flowers, and other items.
First the sister will move the puja tray with the butter lamp in a circular motion while praying. The brother will pay respect to the Gods and move his hands over the butter lamps and touch his hands to his forhead. The sister then applies the tilak powder to his forehead and he then applies it to her forehead. Next, she will tie the band on the right wrist of the brother. The sister will say a prayer wishing for them to have a long life and feed the desserts to the brother with her hands. The brother will then give a gift to the sister and promise her lifelong protection and to help her pass through any obstacles as she grows older. Incedently, this ritual is not usually performed between lovers or married couples.
The ritual may be performed in the morning or afternoon, depending on the local customs. Through this simple ceremony, the unity of the family and community is reinforced. This is also an important family day and a good reason for them to gather.
All over India on this day you will see men wearing bands, or even many bands. Women will send bands to conscriped men thanking them for protecting the country and raise their moral. Political leaders also are the recipients of these band to show their support.
การเริ่มต้นวัน “รักชา บันดฮัน” ก็จะเริ่มต้นเหมือนวันสำคัญอื่นๆ คือ ตื่นแต่เช้า อาบน้ำชำระร่างกายและจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ มารดาและสาวๆ จะช่วยกัตระเตรียมอาหารและขนมหวานต่างๆ ผู้เป็นพี่สาวน้องสาวจะเตรียมถาดบูชา ประกอบด้วย สายข้อมือ, ผงสีแดง (tilak/tilaka) สำหรับแต้มหน้าผาก, ขนมหวาน, ดอกไม้และเครื่องประกอบการบูชา
พี่สาวน้องสาวจะนำถาดบูชาที่เตรียมไว้มาจุดกีและเวียนถาดบูชาแบบเดียวกับการอารตีนั่นล่ะค่ะ และแต้มผง tilak/tilaka สีแดง ที่หน้าผากพร้อมให้พรให้ฝ่ายชายมีอายุมั่นขวัญยืน จากนั้นผูกสาย Rakhi ที่ข้อมือขวา และป้อนขนมให้แก่พี่/น้องชาย ซึ่งฝ่ายชายก็จะมอบของขวัญหรือไม่ก็เงินแก่พี่สาวน้องสาวและสัญญาว่าจะดูแล ปกป้อง คุ้มครองพี่สาวน้องสาวให้ผ่านพ้นอุปสรรคในชีวิต
พิธีจะทำตอนเช้าหรือตอนบ่ายนั้นขึ้นอยู่กับประเพณีและความเชื่อของแต่ละครอบครัวและท้องถิ่น เป็นพิธีที่เรียบง่ายแต่สร้างความเข้มแข็งสามัคคีและสร้างความผูกพันของคนในครอบครัวและชุมชน อีกทั้งยังเป็นวาระอันดีที่ญาติพี่น้องมาพบปะพูดคุยกันคล้ายกับเป็นวันครอบครัวไปเลย
Raksha Bandhan Legend / Origin of the Ceremony
There are many stories about the origin of this ceremony. One of the earliest was from many ages ago when there were intense battles between the God Indra and the demons that lasted for twelve years. At one point, Indra lost his kingdom and all three worlds. Indra consulted Brihaspati, the Guru of Gods, who suggested Raksha Vidhan. On the full moon of Shravana, Indra and Brihaspati performed a ritual and Shuchi, the wife of Indra, tied the Raksha to Indra’s wrist. The God was then able to defeat the demons and take back his kingdom along with the three worlds.
In another story, from the 15th century tells of Rani Karnavati of Chittor, a widowed queen. Her kingdom was under siege from Bahadur Shah, the Sultan of Gujarat. Upon realizing that she couldn’t win a battle against him, she sent a rakhi band along with a message to the Mughal Emperor Humayun asking him for his help in protecting her city. He agreed to give his support and Chittor remained free.
In the 20th Century, Rabindra Nath Tagore used the tradition of Raksha Bandhan as a platform to spread a unified pride and nationalist spirit among people of different castes, ethnicities, genders, and religions. This was done to show the British Empire that Bengali and all of India should not be divided along religious boundaries as was their common practice.
However the custom of Raksha Bandhan came into being, it should hold a high place among world festivals. Our world is so full of strife between races, religions, politics, etc., that it’s more timely than ever to celebrate a ritual that will help people coexist peacefully and productively. Nevermind the puja tray and the band. Just smile and end the silly quarrels with your siblings and people around you. Make peace and enjoy the day!
✌️👫❤️
ตำนานที่มาเกี่ยวกับ “รักชา บันดฮัน” มีหลายตำนานแต่ที่ยึดกันเป็นหลักนั้นมาจาก Bhavishya Puran ที่เล่าเรื่องราวของพระอินทร์และภรรยา ในช่วงที่พระอินทร์สู้รบกับเหล่าอสูรมายาวนานต่อเนื่องถึง 12 ปี และเหล่าอสุราก็ได้ครอบครองอาณาจักรของพระอินทร์รวมทั้งตรีโลก พระอินทร์ไปขอคำปรึกษาจากกูรูบริหาสปาตี (Brihaspati) ท่านนักปราชญ์นี้ได้แนะนำให้พระอินทร์ประกอบพิธีศรวณะปูรนิมา (Shravan Purnima) ในวันศักดิ์สิทธิ์วันนี้ โดยมีท่านกูรูบริหาสปาตีเป็นผู้ประกอบพิธีให้ และก็มีสายข้อมือที่ผ่านการประกอบพิธีบูชาอันศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วย เมื่อเสร็จพิธี พระอินทร์จึงให้ภรรยาผูกสายข้อมือศักดิ์สิทธิ์นี้ให้ที่ข้อมือข้างขวา เมื่อพระอินทร์ออกไปรบอีกครา บรรดาเหล่าอสูรก็แพ้ราบคาบ และพระอินทร์ก็ได้อาณาจักรกลับคืนมาครอบครอง
อีกเรื่องราวหนึ่งคือ ช่วงศตวรรษที่ 15 รานีคาร์นาวตี (Rani Karnavati) แห่งจิตตูร์ (Chittor) ผู้เป็นราชินีหม้าย ต้องปกป้องเมืองของพระนางจากการบุกรุกของสุลต่านบาฮาดูรชาห์ (Bahadur Shah) แห่งคุชราต พระนางตระหนักว่าคงไม่สามารถปกป้องเมืองได้ จึงส่งสายข้อมือไปให้จักรพรรดิฮุมายุน (Humayun) แห่งราชวงศ์โมกุล เพื่อขอรับความคุ้มครองช่วยเหลือ จักรพรรดิฮุมายุนก็มาช่วยสู้รบปกป้องจิตตูร์จากการถูกรุกราน
นอกจากนี้ ยังมีประวัติเกี่ยวกับ “รักชา บันดฮัน” เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1905 การต่อสู้เพื่ออิสรภาพของอินเดีย ต่อต้านการแบ่งแยกแคว้นเบงกอล โดยท่านรพินทรนาถ ฐากูร ส่งเสริมพิธีรักชาบันดฮันแสดงออกซึ่งความเป็นพี่น้องกันและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างพี่น้องชาวฮินดูและมุสลิมร่วมกันการต่อต้านอังกฤษจากการแบ่งแยกแคว้นเบงกอล ซึ่งผู้หญิงผูกสายข้อมือให้ผู้ชายและขอคำมั่นสัญญาว่าจะรักษาคุ้มครองกันและกัน และร่วมต่อสู้เพื่ออิสรภาพของแผ่นดินแม่จากจักรวรรดินิยมอังกฤษ ซึ่งส่งผลให้ประเพณีรักคีขยายวงกว้างไปสู่ความเป็นเพื่อนมิตรระหว่างชาย-หญิง ((((( แต่ถ้าใครเป็นคู่รักหรือคบกันแบบแฟน เขาจะไม่ผูกให้กันนะ! )))))
ช่วงเทศกาล “รักชา บันดฮัน” นี้คนอินเดียทั่วทั้งประเทศจึงนิยมผูกสายข้อมือให้แก่กัน และหลายคนจะส่งด้ายรักคีสวยๆ ผ่านทางไปรษณีย์ไปให้เหล่าทหารเพื่อให้กำลังใจแก่ผู้เป็นรั้วของชาติ รวมถึงอีกหลายคนก็ส่งไปให้ท่านนายกรัฐมนตรีและท่านประธานาธิบดีด้วย
*** ปล. พี่สาว-น้องสาวจ๊ะ!! เวลาซื้อก็อย่าลืมว่าคนใส่เขาเป็นผู้ชาย บางทีเราอาจจะเผลอนึกว่าซื้อใส่เอง เลือกมาซะมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งเชียว คิดถึงน้องชาย-พี่ชายสักนิดว่าพวกเขามีความแมนระดับไหนนะจ๊ะ ^_^ ***
!!..คลิ๊กแผนที่..!! ดูภาพสวยๆ อ่านบล็อกสถานที่ท่องเที่ยวจาก THAILAND 180º ได้นะคะ อัพเดทเพิ่มเติมตลอดค่ะ
We had to eliminate the ability to comment from this wordpress site due to excessive spam. (Mostly from that large country to the north) If you enjoyed this story, subscribe using the “Subscribe” button below, or visit our facebook fan page to comment Here
We’d LOVE to hear from you!
ผู้ติดตามอ่านบล็อก สามารถติดตามอัพเดทโพสต์บล็อกได้โดยสมัครสมาชิกที่บล็อกนี้ หรือ กดไลค์เฟสบุ๊คเพจของเราที่นี่ Here
Blog : Thai by Apisatha Hussadee Giunca
Blog : English by George Edward Giunca
About the Authors
Photographer George Edward Giunca, and his Thai wife, Apisatha, have traveled around Thailand armed with a circular fisheye lens to create a photo essay on the rich cultural diversity, and abundant natural beauty of the Kingdom of Thailand. Fleeing from angry water buffaloes, slapping huge mosquitoes, watching exotic festivals and religious rituals, gorging on delicious spicy food, applying aloe vera cream to sunburned skin, wading through rice paddies, getting drenched to the bone by heavy monsoon rains, and gawking at breath-taking scenery; made it a journey of epic proportions! The result is the book, THAILAND 180º. Later, they traveled extensively through Myanmar, Malaysia, and India, gathering a massive collection of 180º photos. They currently live in Chiang Mai where they continue to blog and are now working on a CHIANG MAI 180º book.
In the 1980s medical science became aware of a third, basic communication system, the peptide ligand-receptor system, cialis online uk in which a network involving the neuronal, the hormonal, the gastrointestinal and the immune system communicate with one another and the rest of the body via peptides and messenger specific peptide receptors. There are evidently no complications caused with the device, and turn it on. get viagra australia HeadacheFlushingDizzinessBlurred visionUpset stomach All of these side effects remain for a longer time and become bothersome.PRECAUTIONS :Drinking alcohol can temporarily impair the ability to get hard state of male reproductive organ. solboards.com levitra properien Intense orgasms By using the herbal cialis no prescription solboards.com sexual supplements you can reach Dr.
Here’s How to Order Your Copy of THAILAND 180º Collectors EditionToday!
In Thailand —>>>http://www.thailand180.com/thaiorder.html
The Rest of the world: We are offering our book on Amazon.com, below list price and I’ll pay for the shipping within the United States! http://amzn.to/1knDPRR
Not Familiar with Our Book???
This show details the origin of 180 Books, a series of art/travel books illustrated with a circular fisheye lens. By using infographics, pictures from our THAILAND 180º book, and never seen before images from our vault, we’ll demonstrate this unique lens and present our unique books.
Also, because there’s nothing to watch on TV, here’s a trailer about our book, “THAILAND 180”